ฉันชื่อเหอฉงเซียน เป็นนักเรียนใหม่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยะเหมิน เรียนที่นี่มาได้แล้วสองปี เรียนคณะภาษาจีน
เมื่อฉันมาถึงประเทศจีนเป็นครั้งแรกฉันไม่คุ้นเคยกับชีวิตของฉันและฉันก็กลัว ก่อนอื่นเลยในเช้าวันแรกฉันมาที่หอพักเซียะเหมินเซียงอันเพื่อไปเช็คอินทุกอย่างทำให้ฉันกังวลและฉันไม่สามารถพูดอะไรได้เลย โชคดีที่คนอื่นมาช่วยฉัน ไม่เช่นนั้นฉันก็ไม่รู้จะเช็คอินได้อย่างไร
อันนี้เป็นภาพของข้างๆหอพัก มีทั้ง สนามออกกำลังกาย ที่นี่นักเรียนส่วนใหญ่จะชอบออกกำลังกายกันมาก
วิทยาเขตใหญ่มาก,จากหอพักไปห้องเรียนนั้นก็ถือว่าไกลอยู่,ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่เลยปั่นจักรยานไปเรียนกัน
มหาวิทยาลัยเซียะเหมินวิทยาเขตเซียงอันนั้นมีข้อเสียอยู่นิดหน่อย: มหาวิทยาลัยมีขนาดใหญ่เกินไป, ต้นไม้ริมถนนน้อย ทำให้โดนแดดได้ง่าย. ภูมิประเทศจะขึ้นและลงก็ยากที่จะปีนจักรยาน แต่ถ้าเป็นการออกกําลังกายก็สนุก
แต่ข้อดีก็คือสภาพแวดล้อมดีมาก,ห้องสมุดและหอพักก็สะอาด,และยังมีสระว่ายน้ำ รวมไปถึงโรงภาพยนตร์อีกด้วย。,ประเด็นที่ฉันสนใจแปลก ๆ คือห้องน้ำสะอาดและเป็นระเบียบ? โดยรวมแล้วมันค่อนข้างน่าพอใจมาก
เพราะฉันชอบว่ายน้ําฉันมักจะไปที่สระว่ายน้ํา, ในวิชาพลศึกษาก็ยังเรียนดําน้ํา ทุกครั้งที่ฉันคิดว่าว่ายน้ํารอบนึงก็เวียเงินแค่เพียงสองดอลลาร์ซึ่งถือว่าถูกมากและสระว่ายน้ําก็มีคนไม่มากเกินไปรู้สึกเหมือนสระว่ายน้ําสุดหรู ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาว, ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่ว่ายน้ํำตลอด
มีอยู่วันนึงฉันได้ไปกินบะหมี่ซีเป่ยกับเพื่อนๆ พอดูเมนูแล้วก็ตกใจเพราะอ่านไม่ค่อยออก ดังนั้นเลยให้เพื่อนๆสั่งให้,แต่เพื่อนๆก็ให้กำลังใจฉันและบอกให้ฉันลองสั่งดู ต้องพูดอยู่หลายรอบ แต่ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะสั่งอาหารด้วยตัวเอง
อันนี้เป็นเมนูอาหาร ทั้งหมดเป็นภาษาจีน แต่ราคาถือว่าไม่แพงเลย
เมื่อฉันมาถึงประเทศจีนครั้งแรกฉันไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนอีกครั้งฉันสั่งอาหารที่ร้านอาหารฉันเรียกพนักงานผู้หญิงว่า "นางสาว" และพนักงานเสิร์ฟก็ไม่มีความสุขหลังจากนั้นฉันรู้ว่านางสาวนั้นส่วนใหญ่จะใช้เรียกพนักงานที่ให้บริการทางเพศซะมากกว่า ดังนั้นข้อห้ามสำหรับผู้หญิงจำนวนมากจึงห้ามเรียกว่านางสาว หากสั่งพนักงานเสิร์ฟเป็นผู้หญิงเราสามารถเรียกเธอว่า "คนสวย",ถ้าเป็นผู้ชายก็ให้เรียกว่า“คนหล่อ”,หรือเรียกตรงๆได้เลยว่า“พนักงาน”
คนนี้เป็นครูที่สอนในห้องฉัน
ก่อนที่จะมาประเทศจีนนั้น,ฉันได้สอบ HSK4 ผ่านแล้ว,แต่พอมาเรียนที่นี่,เวลาครูสอนอะไร,ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย,ได้แค่เดาความหมายต่างๆ。ทำให้ต้องดูสมุดจดของเพื่อนอยู่บ่อยๆ,การเรียนที่นี่ค่อนข้างยากเลยทีเดียว。
แต่หลังจากนั้น,ก็รู้สึกว่าฟังรู้เรื่องมากขึ้น,เรียนได้ดีขึ้น
ตอนแรกฉันไม่กล้าออกไปทำธุระด้วยตัวเองเมื่อฉันไปที่ธนาคารเพื่อทำธนาคารออนไลน์ฉันตัดสินใจไปด้วยตัวเอง แต่เดิมฉันไม่มีความมั่นใจเพราะฉันกลัวว่าแคชเชียร์จะไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันหมายถึง เพราะปกติจะมีเพื่อนคอยช่วยฉันตลอด แต่วันนั้นเพื่อนยุ่งมากยุ่งมากดังนั้นเธอจึงไปกับฉันไม่ได้ เมื่อฉันไปถึงธนาคารฉันพยายามบอกพนักงานเก็บเงินอย่างช้าๆเกี่ยวกับความต้องการของฉัน แต่ฉันไม่เข้าใจว่าพนักงานแคชเชียร์หมายถึงอะไร เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และไม่มีทางที่จะอธิบายให้ฉันฟัง เธอดูเหมือนจะมีปัญหามากโชคดีที่เพื่อนของเธอบางคนสามารถพูดภาษาอังกฤษและแปลให้เราได้ในที่สุดฉันก็สามารถทำธนาคารออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง
พนักงานธนาคาร
ฉันประทับใจมากกับเพื่อนของฉันเพื่อซ่อมโทรศัพท์มือถือของเขา ฉันไม่กล้าแชทกับเจ้าของร้าน เพราะทักษะการพูดและการฟังของฉันไม่ค่อยดี ดังนั้นฉันกลัวว่าฉันจะไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าของร้านพูด แต่ภาษาพูดของเพื่อนฉันยิ่งแย่กว่านั้นฉันก็เลยสามารถสื่อสารกับเจ้าของร้านได้โดยไม่คาดคิดฉัน เจ้าของร้านยังชมอีกว่าฉันพูดได้ดีเลยทีเดียว ตอนนั้นฉันประหลาดใจและมีความสุขมากๆ
ที่มหาวิทยาลัยนั้นมีหลายชมรมมาก,เพื่อที่ฉันจะพูดได้เก่งกว่านี้,ทางครูของฉันเลยให้ฉันเข้าร่วมหลายชมรมเลย。ไม่ว่าจะเป็นการเต้น、ร้องเพลง、บาสเก็ตบอล、ฟุตบอล、ว่ายน้ำ、การโต้วาที เป็นต้น 。แต่ฉันเลือกที่จะไปลงทะเบียนกับชมรมปีเขาเป็นอันดับแรก,เพราะว่าฉันชอบปีนเขามาก。
ในเวลาว่างฉันและเพื่อนๆได้ไปปีนเขาด้วยกันและเรามีความสุขมากๆ มีภูเขาที่มีชื่อเสียงมากมายในประเทศจีนซึ่งมีเสน่ห์มาก ตัวอย่างเช่น หัวซาน, ไท่ซาน, เหิงซาน เป็นต้น
นอกจากนี้,ฉันยังชอบนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปเที่ยวกับเพื่อนๆ。ที่เซี่ยะเหมินค่อนข้างเจริญมาก,แถมค่าบัตรยังถูกกว่าที่กรุงเทพอีก,เริ่มต้นเพียงแค่สองหยวน
ศุนย์บริการลูกค้าภายในสถานี
เซี่ยะเหมินนั้นมีอาหารอร่อยๆมากมาย,แถมยังไม่แพงอีกด้วย,โดยเฉพาะอาหารซีฟู้ดและติ่มซำ。ถ้าอยากกินอาหารถูกๆนั้นก็สามารถกินที่โรงอาหารในมหาวิทยาลัยได้โดยราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8-15 หยวน。
บางครั้งถ้าอยากกินอาหารอื่นๆก็สามารถไปกินข้างนอกมหาวิทยาลัยได้,แต่ก็จะแพงขึ้นหน่อย,บางทีก็ครั้งละ 50 หยวน,บางที่ก็ 100 หยวน
แต่ก่อนฉันคิดว่าภาษาจีนนั้นยากมาก。ส่วนที่ยากที่สุดก็คือ z,c,s,zhe,che,she。และการเรียนแกรมมาร์,รู้สึกว่ายุ่งยากมาก。แตตอนนี้,ฉันคิดว่าภาษาจีนไม่ยากอย่างที่คิด。เพราะอะไรหรอ?เพราะปกติตอนอยู่ที่ประเทศตัวเองนั้น ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาจีน。แต่ตอนนี้นั้นใช้ภาษาจีนทุกวัน。ทำให้สามารถคุยกับทางคนจีนได้ปกติแล้ว แถมไม่กลัวที่จะพูดด้วย